การให้ความสำคัญในการทำมวลสารของการสร้างวัตถุมงคลเป็นความประณีตของผู้จัดสร้าง เพราะนอกจากอธิษฐานจิตปลุกเสกให้มีความเข้มขลังแล้ว สิ่งที่สะสมรวมอยู่ในเนื้อหาของวัตถุมงคลก็เป็นมนต์เสน่ห์เช่นกัน

ในการสร้างแผ่นยันต์ของเกจิคณาจารย์ ท่านต้องเรียกแม่ธาตุในประจุขึ้นมาในแผ่นเพื่อให้ดิน น้ำ ลม ไฟ ได้หนุนให้แผ่นโลหะ แผ่นหนัง หรือกระดาษที่ใช้เขียนลงไปเกิดอิทธิฤทธิ์ การจรดจารแต่ละตัวต้องใช้สมาธิจิตสูงเพราะเขียนผิดไม่ได้ เขียนทับไม่ได้ เขียนแบบไม่ท่องเรียกอักขระไม่ได้ ดังนั้นลูกศิษย์ลูกหาที่ได้แผ่นยันต์ของเกจิอาจารย์ก็มักจะหวงแหนไม่ให้ใครง่ายๆ

เมื่อเกจิคณาจารย์ท่านลงอักขระไป 1 ตัว เช่น ตัวนะ ท่านจะต้องท่องว่า “นะกาโรโหติสัมภะโว (เขียนตัวนะ) จงมาบังเกิดเป็นนะดังนี้ อักขระยันตังอุปปัชชะติ อักขระยันตังสันตังวิกรึงคะเรอิทธิฤทธิ” และจะต้องเขียนให้ทัน 1 ลมหายใจ หากเขียนไม่ทันให้เอาทิ้งไปเสียเนื่องจากไม่มีฤทธิ์อันใด ซึ่งกว่าจะเขียนยันต์ได้ 1 แผ่นจึงต้องใช้สมาธิ ใช้เวลา และเมือเขียนเสร็จจะต้องสวดคาถาเรียกชื่อเรียกนามและบอกให้เกิดฤทธิ์ในด้านใด เช่น เป็นยันต์ที่เพิ่มโชคลาภ เป็นยันต์ที่ปกป้องคุ้มครอง เป็นต้น

สำหรับพระกริ่งพ่อจ่าการบุญ คณะทำงานได้รวบรวมแผ่นอักขระจารแผ่นยันต์ด้วยมือ วัตถุมงคลรุ่นปี 2542 พิธีจักรพรรดิ์ และได้รับวัตถุมงคลจากผู้ปกครองจำนวนมากมาหลอมรวมเป็นมวลสาร เมื่อรวมกับเนื้อนวโลหะของโรงงานแล้วถือว่าเป็นพระกริ่งที่มีความขลังจากเนื้อในตั้งแต่ยังไม่ได้ปลุกเสก ซึ่งภาษาทางวงการพระเครื่องจะเรียกว่าเนื้อดี ซึ่งรายนามเกจิและวัตถุมงคลที่มีผู้มาร่วมพลีสามารถดูได้จากหนังสือที่มอบให้พร้อมพระกริ่งพ่อจ่าการบุญ

เมื่อหลอมรวมในฤกษ์ที่ถูกระบุไว้เพื่อเป็นมงคลต่อผู้ครอบครองแล้ว ยังได้ผ่านการอธิษฐานจิตจากเกจิคณาจารย์โดยครั้งนี้ได้รับความเมตตาจากระดับท่านเจ้าคุณถึง 3 รูป รวมแล้วเกจิที่ท่านเจ้าคุณไพรินทร์ได้นิมนต์รวมแล้วทั้งหมด 9 รูป อีกทั้งยังมีพระภาวนาจารย์ร่วมนั่งปรกปลุกเสกอีก ซึ่งเรื่องราวปาฏิหาริย์ตั้งแต่ก่อนวันเริ่มพิธี ตอนหล่อพระกริ่ง และตอนพุทธาภิเษกก็ได้ปรากฏต่อผู้เข้าร่วมพิธีหลายคน นับว่าเป็นวัตถุมงคลที่ระลึกที่ “ดีนอก” และ “ดีใน” ซึ่งวัตถุประสงค์ของการจัดสร้างก็เพื่อเป็นที่ระลึกสำหรับการสมทบทุนการจัดหาเครื่องวงโยธวาทิตที่สูญเสียไปในเหตุอัคคีภัยที่ผ่านมา

พระกริ่งเนื้อดี ดีนอก ดีใน แผ่นยันต์จารจำนวนมาก